พื้น Epoxy/PU พังง่ายไหม? คำตอบอยู่ที่ 'การเตรียมพื้นผิว' ที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่ทำถึง
พื้นสวยๆ ไม่ได้วัดกันที่สี แต่อยู่ที่การ "ยึดเกาะ"
คุณกำลังจะลงทุนทำพื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy) หรือโพลียูรีเทน (PU) ใช่หรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นพื้นโรงงาน โกดัง หรือโชว์รูม ทุกคนคาดหวังความสวยงาม ไร้รอยต่อ และความทนทานยาวนานนับ 10 ปี แต่รู้ไหมว่า... ความทนทานนั้นไม่ได้เริ่มต้นที่การ "ปาด" วัสดุเคลือบ แต่เริ่มต้นที่ขั้นตอนที่หลายคนมองข้าม นั่นคือ "การเตรียมพื้นผิวคอนกรีตเดิม"
ผู้รับเหมาที่ไม่ได้มาตรฐานมักพยายามรวบรัดขั้นตอนนี้ เพราะเชื่อว่าการลงสีเคลือบจะช่วยปิดบังข้อบกพร่องได้ แต่ในโลกของงานเคมีและวัสดุเคลือบพื้น... การมองข้ามขั้นตอนเดียวอาจทำให้คุณต้องเสียเงินซ่อมแซมมากกว่า 3 เท่า
เราจะพาคุณเจาะลึก 3 หัวใจสำคัญของการเตรียมพื้นผิว ที่พิสูจน์ได้ว่างานพื้น Epoxy/PU ต้องอาศัยความรู้และเทคนิคเฉพาะทางจริง ๆ
1. 🔍 หัวใจที่ 1: "ความชื้น" ศัตรูตัวฉกาจที่วัดได้ด้วยเครื่องมือพิเศษ
ปัญหาอันดับหนึ่งที่ทำให้พื้น Epoxy หรือ PU บวม ล่อน หรือพองเป็นฟองอากาศ คือ ความชื้นสะสม ในพื้นคอนกรีตเดิม
สิ่งที่ช่างทั่วไปพลาด: ช่างที่ไม่มีความรู้จะทำความสะอาดพื้นผิวแล้วลงสีทันที โดยไม่มีการตรวจวัดความชื้น
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำ: เราใช้ เครื่องวัดความชื้น (Moisture Meter) หรือใช้วิธีทดสอบแบบอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าค่าความชื้นของคอนกรีตอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด (มักไม่เกิน 4-6% ตามมาตรฐาน)
เทคนิคเฉพาะ: หากพื้นมีความชื้นเกินเกณฑ์ จำเป็นต้องมีการลง สารบล็อกความชื้น (Moisture Barrier / DPM) ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่มีราคาสูงและต้องใช้เทคนิคการปาดที่แม่นยำ เพื่อป้องกันไม่ให้ไอน้ำจากใต้พื้นดันชั้นสีเคลือบให้หลุดล่อนในอนาคต
2. ⚙️ หัวใจที่ 2: การ "ขัด" สร้างฟันยึดเกาะด้วยเครื่องมือมาตรฐาน
วัสดุเคลือบพื้น Epoxy และ PU จะไม่สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวคอนกรีตที่เรียบหรือมีสิ่งปนเปื้อนได้ดี การทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือไม้กวาดจึงไม่เพียงพอ
สิ่งที่ช่างทั่วไปพลาด: ทำความสะอาดแบบผิวเผิน หรือแค่ขัดกระดาษทรายเบา ๆ
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำ: เราต้องทำ การขัดเตรียมพื้นผิว (Surface Grinding) ด้วยเครื่องขัดพื้นที่มีหัวเพชร (Diamond Grinder) หรือใช้เทคนิค Shot Blasting เพื่อ:
กำจัดสิ่งสกปรก: คราบน้ำมัน จารบี สีเก่า และพื้นผิวคอนกรีตที่ไม่แข็งแรงออกไป
สร้างโปรไฟล์ (Profile): สร้างพื้นผิวที่หยาบและมีรูพรุนเล็กน้อย เพื่อให้ Epoxy/PU แทรกซึมและยึดเกาะ ได้เหมือนกับการสร้าง "ฟัน" ให้วัสดุได้เกาะอย่างมั่นคง
ผลลัพธ์ที่แตกต่าง: พื้นที่เตรียมอย่างดีจะมีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอสูงกว่าพื้นผิวที่แค่ทำความสะอาดหลายเท่า
3. 🧪 หัวใจที่ 3: Primer (รองพื้น) ชั้นกาวมหัศจรรย์ที่ขาดไม่ได้
ไพรเมอร์ (Primer) คือสารรองพื้นเคมีชนิดแรกที่ต้องสัมผัสกับคอนกรีต มีหน้าที่เป็นกาวเชื่อมระหว่างพื้นคอนกรีตกับชั้น Epoxy/PU ที่จะเคลือบทับด้านบน
สิ่งที่ช่างทั่วไปพลาด: ใช้ Primer คุณภาพต่ำ หรือผสมอัตราส่วนผิดพลาด เพราะเห็นเป็นแค่ "ชั้นรองพื้น" หรือไม่ลง Primer เลยเพื่อลดต้นทุน
สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำ: เราเลือกใช้ Epoxy Primer หรือ PU Primer คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับพื้นผิวนั้น ๆ โดย:
ควบคุมอุณหภูมิ: ผสมสารเคมีตามอัตราส่วนที่แม่นยำ และทำงานภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม
ซึมซาบเต็มที่: ทาในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้สารเคมีซึมลึกเข้าไปในรูพรุนของคอนกรีตที่ขัดเตรียมไว้แล้วอย่างสมบูรณ์
เทคนิคเฉพาะ: การลง Primer ที่ดีจะทำให้ชั้นเคลือบมีความแข็งแรง และป้องกันปัญหา พื้นล่อน (Delamination) ได้เกือบ 100%
สรุป: การทำพื้น Epoxy/PU คือ 'งานเคมี' ไม่ใช่งานช่างทั่วไป
การเลือกผู้รับเหมาที่มีความรู้และเทคนิคเฉพาะจึงไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มต้นทุน แต่คือ การลงทุนเพื่อความมั่นคงและอายุการใช้งานที่แท้จริง
อย่าเสี่ยงกับ "ราคาถูก" ที่ต้องแลกมาด้วยการซ่อมแซมซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากคุณต้องการพื้น PU/Epoxy ที่ทนทาน แข็งแรง และได้มาตรฐานสูงสุด ติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจ "หัวใจ" ของงานนี้อย่างแท้จริง

